ทัวร์โมรอคโค ดินแดนฟ้าจรดทราย

ทัวร์โมรอคโค ดินแดนฟ้าจรดทราย - Lillunar Trips
รหัสทัวร์
011-01983
วันที่เดินทาง
ต.ค.67 - ธ.ค.67
ช่วงเวลา
8 วัน 5 คืน
เดินทางโดย
Saudi Arabian Airlines (SV)

ไฮไลท์

  • เมืองราบัต - สุสานกษัตริย์โมฮัมเหม็ดที่ 5 – หอคอยฮัสซัน -  ป้อมปราการอูดายา - เมืองเฟส
  • สุเหร่าโคเราวีน - พระราชวังหลวง (ด้านนอก) - โรงฟอกหนัง - เมืองเมคเนส
  • สุสานสุลต่านมูเลย์ อิสมาอิล (ด้านนอก) - มัสยิด คูตูเบีย Koutoubia Mosque
  • พระราชวังบาเอีย - จตุรัสจามา เอล-ฟาน่า - เมือง Ait Ben Haddou - ป้อมปราการแห่งอัตเบนฮัดดู 
  • เมืองวาร์ซาเซต - ป้อมปราการทาอูเริท - เมืองมาราเกซ - สุเหร่าแห่งกษัตริย์ฮัสซันที่ 2 

แผนการเดินทาง

23.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบินซาอุดิอาระเบีย แอร์ไลน์  Saudi Arabian Airlines  (SV) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารการเดินทาง

01.05 น.  ออกเดินทางจาก สนามบินสุวรรณภูมิ สู่สนามบิน King Abdulaziz International Airport เจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยเที่ยวบินที่ SV 849 (ใช้เวลาบินประมาณ 8 ชั่วโมง 15 นาที) (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

06.00 น. เดินถึงสนามบิน King Abdulaziz International Airport เจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย   (รอเวลาต่อเครื่องประมาณ 2 ชั่วโมง 20 นาที)

08.20 น. ออกเดินทางจากสนามบิน King Abdulaziz International Airport เจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยเที่ยวบินที่ SV 373 (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง 40 นาที) (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

13.25 น. เดินทางถึงสนามบินคาซาบลังก้า โมฮัมเหม็ดที่5 (Casablanca Mohammed V International Airport )
(เวลาท้องถิ่นช้ากว่าเวลาประเทศไทย 6 ชม.)

หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและผ่านศุลกากรเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางสู่ กรุงราบัต (Rabat) เมืองหลวงของโมรอคโค มาตั้งแต่ปี ค.ศ.1956 เป็นที่ตั้งของพระราชวังหลวงที่เป็นประทับปัจจุบันของ  กษัตริย์แห่งโมรอคโค  และยังเป็นที่ตั้งทำเนียบทูตจากต่างประเทศต่างๆ กรุงราบัตเป็นเมืองที่มีความขาวสะอาดและสวยงาม นำท่านเดินทางสู่ สุสานของกษัตริย์โมฮัมเหม็ด ที่ 5 (Mausoleum of Mohammad V) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.)  กษัตริย์โมฮัมเหม็ด ที่ 5 เป็นผู้กอบกู้อิสรภาพจากการเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสและสเปน และเป็นพระอัยกาของสุลต่านองค์ปัจจุบัน ซึ่งสถาปนิกชาวเวียดนามเป็นผู้ออกแบบสุสานแห่งนี้ โดยเริ่มก่อสร้างสุสานภายหลังที่สุลต่านโมฮัมเหม็ดที่ 5 สวรรคตไปแล้ว 6 ปี โดยองค์สุลต่านได้พระราชานุญาตให้นักท่องเที่ยวทุกชาติทุกศาสนา สามารถเข้าไปเยี่ยมชมและเคารพพระศพได้ โดยที่ประตูทางเข้าทั้ง 4 ด้านจะมีทหารยามยืนเฝ้าทุกประตู ภายในสุสานจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ด้านหนึ่งคือมัสยิดเก่าแก่อีกด้านคือสุสาน   

จากนั้นนำท่านชม หอคอยฮัสซัน (Hassan Tower) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสุเหร่าฮัสซัน ที่ตั้งตั้งโดดเด่นอยู่บน  เนินเขาบริเวณริมแม่น้ำบูเรเกรกมานานกว่า 800 ปี ถือเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์สําคัญของกรุงราบัตเป็นมัสยิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโมรอคโค มีขนาดใหญ่เป็ นอันดับ 13 ของมัสยิดโลกสถาปัตยกรรมของมัสยิดแห่งนี้ อาจไม่ได้เก่าแก่มากนัก เพราะพึ่งเสร็จมาเมื่อปี 1993 ระยะเวลาในการก่อสร้างทั้งหมด 6 ปีมัสยิดแห่งนี้ ได้รับการออกแบบโดยมิเชล แปงโช สถาปนิกชาวฝรั่งเศส ใช้ศิลปะสไตล์โมรอคโคมีการใช้เทคโนโลยีสุดทันสมัยผสมผสานเข้าไปด้วย มีหอคอยสูง 120 เมตร สามารถจุคนได้สูงถึง25,000 คน วัตถุประสงค์หลักสำหรับการสร้างมัสยิดแห่งนี้ ก็คือวาระเฉลิมฉลองพระชนม์ครบ 60 พรรษาขององค์กษัตริย์ฮัสซันที่ 2 แห่งโมรอคโคและใช้เป็นสถานที่สำคัญในการต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง

นำท่านชม ป้อมปราการอูดายาส (Oudaya Kasbah) เป็นป้อมปราการที่ตั้งอยู่บริเวณบนเนินเขาตรงปากแม่น้ำบูเรเกรก และได้รับการขึ้นทะเบียนพร้อมกับสถานที่อื่นๆ ในราบัต ให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองเฟส (Fes)  ซึ่งเป็นเมืองสำคัญและถือว่าเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์เมืองหนึ่งของศาสนาอิสลาม ที่มีอุตสาหกรรมเครื่องหนังเป็นเมืองการค้า ได้รับการขนานนามว่า “มักกะฮ์แห่งตะวันตก” และ  “เอเธนส์แห่งแอฟริกา”      

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ   

ที่พัก MOUNIA HOTEL หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชม สุเหร่าโคเราวีน (Kairaouine Mosque) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรม และมีการตกแต่งที่สวยงามของมัสยิดแห่งนี้และถือได้ว่าเป็นสถาบันการศึกษาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มัสยิด Karaouine ก่อตั้งขึ้นในปี 859 โดย Fatima Al-Fihri ลูกสาวของ Mohammed Al-Fihri ซึ่งเป็นพ่อค้าที่ร่ำรวยในขณะนั้น ครอบครัวนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผู้อพยพที่ตัดสินใจย้ายจาก Kairouan ในตูนิเซียไปยังเมือง Fes ในโมร็อคโค เมื่อต้นศตวรรษที่ 9 ทั้งฟาติมาและน้องสาวของเธอได้รับการศึกษาอย่างดีและได้รับมรดกเงินจำนวนมากจากพ่อของพวกเขา หลังจากที่พ่อเสียชีวิตฟาติมาให้คำมั่นว่าจะใช้จ่ายทั้งหมดเพื่อสร้างมัสยิด ด้วยความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า ในไม่ช้า โครงการนี้จึงเติบโตจากการเป็นเพียงสถานที่สักการะเป็นสถานที่สำหรับการสอนศาสนาและการอภิปรายทางการเมือง ตลอดหลายทศวรรษ ที่ชาวโมรอคโคถือว่าเป็นแหล่งมาแสวงบุญที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกาเหนือ ปัจจุบันสามารถรองรับผู้สักการะได้มากถึง 20,000 คน

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน

หลังรับประทานอาหาร นำท่านเดินทางสู่ พระราชวังหลวง (Royal Palace) (ด้านนอก) นำท่านเดินชมความสวยงามของ ซุ้มประตูหลวง ของพระราชวังแห่งนี้ โดยพระราชวังหลวงแห่งนี้ที่องค์สุลต่านจะเสด็จมาประทับเฉพาะในช่วงที่มีพิธีสำคัญต่าง ๆ เท่านั้น อีกทั้งลานหน้าวังจะมีพื้นที่กว้างขวางมาก เพื่อใช้สำหรับการเดินสวนสนาม ตลอดจนการจัดการแสดงถวายองค์สุลต่านเนื่องในวโรกาสต่าง ๆ อิสระกับการถ่ายภาพ

จากนนั้นนำท่าน ชมย่านร้านเครื่องหนัง และแวะชม บ่อฟอกและย้อมสีหนังแบบโบราณ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเมืองเฟส ถูกอนุรักษ์โดยองค์กรยูเนสโก โรงฟอกหนังของเมืองเฟสจะประกอบไปด้วยอ่างหินจำนวนมากวางเรียงกันเป็นแถว แต่ละบ่อจะเต็มไปด้วยสีย้อมและของเหลวเติมเต็มทั่วทุกบ่อ ราวกับเป็นจานสีที่มีขนาดใหญ่ โดยหนังเหล่านี้ ได้มาจากทั้ง วัว แกะ แพะ และอูฐ นำเข้าสู่กระบวนการกลายเป็นเครื่องหนังคุณภาพชั้นสูง เช่นกระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า โดยไม่มีการใช้เครื่องจักร นับเป็นภูมิปัญญาที่มีตั้งแต่ยุคกลาง อิสระช้อปปิ้งสินค้าท้องถิ่นมากมาย

นำท่านเดินทางสู่ เมคเนส (Meknes) เมืองหลวงโบราณในสมัยสุลต่าน มูเลอิสมาอิล (Mouley Ismail) แห่งราชวงศ์อะลาวิท (Alawite Dynasty) กษัตริย์ผู้ชื่นชอบการทำสงครามใน ศตวรรษที่ 17 ด้วยทำเลที่ตั้งที่มีแม่น้ำไหลผ่านกลางเมือง เมกเนสจึงเป็นเมืองศูนย์กลางทางด้านเกษตรกรรม โดยเฉพาะการผลิตมะกอก ไวน์ และพืชพรรณต่างๆ เพื่อนำท่านชม สุสานมูเล อิสมาอิล (Mausoleum of Moulay Ismail) (ด้านนอก)  สุสานเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปี 1703 โดย Ahmed Eddahbi โดยสุสานนั้นอยู่ภายในกำแพงเมือง มีความงดงามของสถาปัตยกรรมกระเบื้องโมเสกและศิลปะประตูโค้งตามสไตล์โมรอคโค

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่เมือง มาราเกซ (MARRAKECH) เมืองมาราเกซเป็นเมืองแห่ง ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญที่ตั้งอยู่เชิงเขาแอตลาส ในอดีตเมืองโอเอซิสแห่งนี้ เป็นที่พักของกองคาราวานอูฐที่มาจากทางตอนใต้ของโมรอคโค ถือเป็นเมืองชุมทางของพ่อค้าต่างๆ นอกจากนี้ ยังเป็นอดีตเมืองหลวงในช่วงสมัยราชวงศ์อัลโมราวิดช่วง ศ.ต.ที่ 11 ปัจจุบันเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดของโมรอคโคสภาพบ้านเมืองที่เราเห็นได้คือสองข้างทางแวดล้อมด้วยบ้านเรือนที่ถูกฉาบด้วยปูนสีส้มๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลกำหนดไว้แต่คนท้องถิ่นจะเรียกว่า PINK CITY หรือ เมืองสีชมพู มาราเกชเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง จึงได้สมญานามว่าเป็น A CITY OF DRAMA นั่นคือมีความสวยงามดั่งเมืองในละคร

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ   

ที่พัก  GOMASSINE HOTEL หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชม มัสยิดคูตูเบีย (Koutoubia Mosque) (ด้านนอก)  เป็นมัสยิดที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในเมือง ไม่ว่าท่านจะเดินไปแห่งใดในตัวเมืองแห่งนี้ ท่านก็จะเห็นมัสยิดนี้ได้ โดยเห็นจากหอวังที่มีความสูงถึง 226 ฟิต (70 เมตร)

นำท่านชม พระราชวังบาเฮีย (Bahia Palace) พระราชวังของท่านมหาอำมาตย์ ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินแทน

ยุวกษัตริย์ในอดีต สร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ภายในแบ่งออกเป็น 2 ส่วน เนื่องจากสร้างในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ส่วนแรกซึ่งถือว่าเก่าแก่ที่สุดออกแบบโดยเซอร์เมาซ์ซา (Sir Moussa) ซึ่งภายในอาคารที่พักจะมี 

สวนแบบเปิดไว้เดินพักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย อีกส่วนหนึ่งออกแบบโดย บา อาเหม็ด (Ba Ahmed) เป็นการสร้างที่พักแบบแนวใหม่ โดยตั้งใจให้เป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และหรูหราที่สุดในสมัยนั้น

เที่ยง  อิสระอาหารกลางวัน  ท่านสามารถเลือกรับประทานอาหารได้ที่ จตุรัสจามาเอล-ฟาน่า ซึ่งมีร้านค้าตั้งอยู่มากมาย

นำท่านเดินทาง สู่ จตุรัสจามาเอล-ฟาน่า(Jemaa el-Fna Square) เป็นจัตุรัสกลางเมืองที่มีขนาดใหญ่รายล้อมไปด้วยอาคาร ร้านค้า ตลาด ทั้ง 4 ด้าน ที่มีสีสันและกลิ่นอายแบบโมรอคโคขนานแท้ อิสระกับการถ่ายภาพและเลือกซื้อของฝากของที่ระลึก

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ

ที่พัก GOMASSINE HOTEL หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองไอท์ เบนฮาดดู (AIT BENHADDOU) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่มีอาคารต่างๆสร้างจากดินเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงจากกองถ่ายทำภาพยนตร์กว่า 20 เรื่อง โดยเฉพาะป้อมดินที่งดงามและมีความใหญ่ที่สุดในภาคใต้ของโมรอคโค คือ ป้อมไอท์ เบนฮาดดู(KASBASH OF AITBEB HADOU) เป็นป้อมดินซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางสวนอัลมอนด์ เป็นปราสาทที่ใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่องที่โด่งดังอาทิ Lawrance of Arabia , Jesus of Nazareth และ Gladiator ปัจจุบันอยู่ ในความดูแลขององค์การยูเนสโก้

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน  

จากนั้นเดินทางต่อ สู่เมืองวอซาเซท OUARZAZATE (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ ในปี ค.ศ. 1928 ฝรั่งเศสตั้งกองกำลังทหารและพัฒนาที่นี้ให้เป็นศูนย์กลางการบริหารปัจจุบันเมืองวอซาเซทเป็นเมืองถูกส่งเสริมให้เป็นเมืองท่องเที่ยว และมีการพัฒนาพื้นที่ในทะเลทรายในการทำกิจกรรมต่างๆ ที่แวดล้อมไปด้วยสตูดิโอสำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็น เรื่อง CLEO PATTRA,THE MUMMY, KINGDOM OF HEAVEN เป็นต้น ที่ใช้เมืองแห่งนี้เป็นฉากสำหรับการถ่ายทำในภาพยนตร์ ลักษณะภูมิประเทศที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์แบบชนเผ่าเบอร์เบอร์ ซึ่งเป็นชนเผ่าดั้งเดิมของชาวโมรอคโค วอซาเซท เป็นเมืองที่สำคัญที่สุดของทางตอนใต้และที่นี่ยังเป็นทางเชื่อมระหว่างเหนือกับใต้       และตะวันออกกับตะวันตก 

จากนั้นเดินทางสู่ ป้อมปราการทาอูเริท (Kasbah Taorirt) ซึ่งเป็นป้อมของตระกูลกลาวี ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหมู่อาคารภายในประกอบด้วยห้องต่างๆ ที่ซ่อนอยู่มากมาย มีงานศิลปะและสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ

นำท่านเดินทางสู่ มาราเกซ (Marrakesh) เมืองหลวงเก่าของโมรอคโค ที่ผสมผสานความเป็นเมืองในยุคเก่า  และเมืองทันสมัยแบบใหม่ได้เป็นอย่างดี มาราเกซเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 รองลงมาจากคาซาบลังก้า และราบัต ปัจจุบันเมืองนี้จัดได้ว่ามีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในโมรอคโค

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ

ที่พัก GOMASSINE HOTEL หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ คาซาบลังก้า (Casablanca) เมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศโมรอคโคที่มีประชากรอาศัยอยู่เกือบ 5 ล้านคน นอกจากนี้เมืองนี้ยังถูกใช้เป็นฉากในภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเรื่องCasablanca เป็นเรื่องราวความรักระหว่างนายทหารอเมริกันและหญิงคนรัก ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้คาซาบลังก้าเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

เที่ยง อิสระรับประทานอาหารกลางวัน

นำท่านสู่ มัสยิดกษัตริย์ฮัดสันที่ 2 (Hassan II Mosque) ซึ่งสร้างขึ้นบริเวณพื้นดินที่เต็มไปด้วยหินและอยู่ใกล้ริมทะเล โดยสุลต่านฮัดสันที่ 2 เป็นผู้ดำริให้มีการก่อสร้างสุเหร่าแห่งนี้ขึ้น สุเหร่าแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส ซึ่งภายในสุเหร่าแห่งนี้สามารถรองรับผู้ที่มาสักการะบูชาได้ถึง 25,000 คน และด้านนอกอีกกว่า 80,000 คน ใช้เวลาการก่อสร้างนานถึง 6 ปี และใช้คนงานก่อสร้างและแกะสลักมากกว่า 6,000 คน

(ในกรณีที่มัสยิดแห่งนี้มีการทำพิธีกรรมทางศาสนา ทางบริษัท ฯ ขออนุญาตนำท่านชมรอบนอกเท่านั้น)

จากนนั้นนำท่านเดินทางสู่ Morocco Mall ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกา ด้วยพื้นที่ 590,000 ตารางเมตรในคาซาบลังกาประเทศโมรอคโค Morocco Mall นี้เปิดทำการเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2554 ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิก Davide Padoa จากDesign International อิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย

ค่ำ อิสระอาหารค่ำ ท่านสามารถ เลือกทานอาหารได้ที่ Morocco Mall ซึ่งมีร้านอาหารมากมายให้ท่านเลือกชิม

ที่พัก AI WALID HOTEL หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ Hubous Quarter เป็นย่านเก่าแก่แห่งหนึ่งของคาซาบลังกา มีอายุย้อนกลับไปในปี 1916 ในระยะแรกปกครองด้วยฝรั่งเศส ย่านนี้เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและศาสนาสำหรับคาซาบลังกาและโมร็อคโค เพราะเป็นที่ตั้งของกระทรวงกิจการอิสลามของโมร็อคโค รวมถึงร้านหนังสือของสำนักพิมพ์โมร็อคโคและอาหรับที่สำคัญ อิสระกับการถ่ายภาพ

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ จัตุรัสโมฮัมเหม็ดที่ 5 (Place Mohamed V) ซึ่งเป็นจตุรัสไม่ใหญ่มาก แต่บริเวณโดยรอบบริเวณนี้ถูกล้อมรอบไปด้วยอาคารราชการต่างๆ ธนาคาร และไปรษณีย์กลาง

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่สนามบินคาซาบลังก้า โมฮัมเหม็ดที่ 5 (Casablanca Mohammed V International Airport)

14.55 น. ออกเดินทางจากสนามบินคาซาบลังก้า โมฮัมเหม็ดที่ 5 (Casablanca Mohammed V International Airport) ประเทศโมรอคโค โดยเที่ยวบินที่ SV 372 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง) (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง 10 นาที)

23.00 น. เดินถึงสนามบิน King Abdulaziz International Airport เจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย (รอเวลาต่อเครื่องประมาณ 2 ชั่วโมง 55 นาที)

01.55 น.  ออกเดินทางจากสนามบิน King Abdulaziz International Airport เจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดย    เที่ยวบินที่ SV 373 (ใช้เวลาบินประมาณ 8.15 ชั่วโมง) (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

13.40 น.  เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ SV 844

แผนที่

เลือกวันเดินทาง

วันเดินทางไป - กลับ ผู้ใหญ่ท่านละ พักเดี่ยวเพิ่มเงิน ราคาเด็กท่านละ
22 พ.ย. 67 - 29 พ.ย. 6748,888 บาท6,000 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง
04 ธ.ค. 67 - 11 ธ.ค. 6751,111 บาท6,000 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง
27 ธ.ค. 67 - 03 ม.ค. 6855,555 บาท7,500 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง

เงื่อนไข

  • ค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ ชั้นประหยัด พร้อมคณะ รวมค่าภาษีสนามบิน และค่าภาษีน้ำมัน
  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระท่านละ ไม่เกิน 23 กิโลกรัม จำนวน 2 ใบ และถือขึ้นเครื่องไม่เกิน 7 กิโลกรัม
  • ค่ารถนำเที่ยวตามเส้นทางที่ระบุไว้ในโปรแกรมทัวร์ พร้อมคนขับรถ
  • โรงแรมที่พักตามระบุในรายการ หรือ เทียบเท่าในระดับเดียวกัน (ห้องละ 2 ท่าน)
  • ค่าอาหารและค่าเข้าชม ตามที่ระบุในรายการ                   
  • ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท (เงื่อนไขตามกรมธรรม์)
  • ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
  • ค่าธรรมเนียมวีซ่าแบบออนไลน์และค่าบริการ 4,900 บาท
  • ค่าธรรมเนียมน้ำมัน และภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้น
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่น ค่าทำหนังสือเดินทาง , ค่าโทรศัพท์ , ค่าอินเตอร์เน็ต , ค่าซักรีด , มินิบาร์ในห้องพัก , ค่ากระเป๋าเดินทางหากเกิดการชำรุดหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง , ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว รวมถึงค่าอาหารพิเศษนอกเหนือจากที่ทางทัวร์กำหนด หรือการรีเควสอาหารพิเศษต่างๆ  เช่น อาหารเจ อาหารมังสวิรัติ อาหารอิสลาม อาหารทะเล เป็นต้น
  • ค่าน้ำหนักกระเป๋าส่วนเกินจากที่ทางสายการบินกำหนด
  • ค่าจ้างคนขับรถท้องถิ่นและค่าจ้างมัคคุเทศก์ท้องถิ่น ท่านละ 3,500 บาท ชำระที่สนามบิน ณ วันเดินทาง
  • ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ (ตามมาตรฐานการให้ทิปวันละ 100 บาท/ท่าน/วัน)
  • **ทั้งนี้ไม่ได้เป็นการบังคับ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของท่าน ในการบริการของหัวหน้าทัวร์**
  • ค่าพนักงานยกกระเป๋า ณ โรงแรมที่พัก (ทางบริษัทฯ ไม่ได้จัดให้แก่ท่านเนื่องจากป้องกันการสูญหายจากมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามาในโรงแรมที่พักและเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเข้าห้องพักสำหรับทุกท่าน)
  • ค่าตรวจ RT-PCR TEST (ถ้ามี)

หมายเหตุ : กรุณาอ่านศึกษารายละเอียดทั้งหมดก่อนทำการจอง เพื่อความถูกต้องและความเข้าใจตรงกันระหว่างลูกค้าและบริษัทฯ  เมื่อท่านตกลงชำระเงินมัดจำหรือค่าทัวร์ทั้งหมดกับทางบริษัทฯแล้ว ทางบริษัทฯจะถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ทั้งหมด

  1. ล่วงหน้าอย่างน้อย 10 วันก่อนการเดินทาง
  2. รายการท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้เดินทางเป็นสำคัญ
  3. บริษัทฯ ไม่รับผิดชอบค่าเสียหายในเหตุการณ์ที่เกิดจากสายการบิน ภัยธรรมชาติ เช่น พายุไต้ฝุ่น ปฏิวัติและอื่นๆที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของทางบริษัทฯหรือค่าใช้จ่ายเพิ่ม เติมที่เกิดขึ้นทางตรงหรือทางอ้อม เช่น การเจ็บป่วย, การถูกทำร้าย, การสูญหาย, ความล่าช้า หรือจากอุบัติเหตุต่างๆ
  4. ทางบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้นหากเกิดกรณีความล่าช้าจากสายการบิน, การประท้วง, การนัดหยุดงาน, การก่อจลาจล หรือกรณีที่ท่านถูกปฏิเสธ การเข้าหรือออกเมืองจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง หรือเจ้าหน้าที่กรมแรงงานทั้งจากไทย และต่างประเทศซึ่งอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของบริษัทฯ
  5. หากไม่สามารถไปเที่ยวในสถานที่ที่ระบุในโปรแกรมได้ อันเนื่องมาจากธรรมชาติ ความล่าช้า และความผิดพลาดจากทางสายการบิน จะไม่มีการคืนเงินใดๆทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้ทางบริษัทฯจะจัดหารายการเที่ยวสถานที่อื่นๆมาให้ โดยขอสงวนสิทธิ์การจัดหานี้โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  6. ราคานี้คิดตามราคาตั๋วเครื่องบินในปัจจุบัน หากราคาตั๋วเครื่องบินปรับสูงขึ้น บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะปรับราคาตั๋วเครื่องบินตามสถานการณ์ดังกล่าว
  7. หนังสือเดินทางต้องมีอายุเหลือการใช้งานมากกว่า 7 เดือน และบริษัทฯ รับเฉพาะผู้มีจุดประสงค์เดินทางเพื่อท่องเที่ยวเท่านั้น
  8. ทางบริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านใช้บริการของทางบริษัทฯไม่ครบ อาทิ ไม่เที่ยวบางรายการ, ไม่ทานอาหารบางมื้อ เพราะค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ทางบริษัทฯได้ชำระค่าใช้จ่ายให้ตัวแทนต่างประเทศแบบเหมาขาดก่อนออกเดินทางแล้ว
  9. ทางบริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดสิ่งของสูญหายจากการโจรกรรม และ/หรือ เกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากความประมาทของตัวนักท่องเที่ยวเอง
  10. เนื่องจากตั๋วเครื่องบินเป็นตั๋วราคาพิเศษ เมื่อออกตั๋วไปแล้วในกรณีที่ท่านไม่สามารถเดินทางพร้อมคณะไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ตั๋วเครื่องบินไม่สามารถนำมาเลื่อนวันหรือคืนเงินได้
  11. ในกรณีที่ลูกค้าต้องออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัท ฯ ก่อนทุกครั้ง มิฉะนั้นทางบริษัทฯจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
  12. หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (WHEELCHAIR), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรคประจำตัว หรือไม่สะดวกในการเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4 - 5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่านและครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ทั้งหมด
  13. มัคคุเทศก์ พนักงาน หรือตัวแทนของทางบริษัท ไม่มีอำนาจในการให้คำสัญญาใดๆ แทนบริษัท  เว้น แต่มีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของบริษัทกำกับเท่านั้น
  14. เมื่อท่านตกลงชำระเงินไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนกับทางบริษัทฯ ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านได้ยอมรับในเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ที่ได้ระบุไว้แล้วทั้งหมด
  15. ทางบริษัทเริ่มต้นและจบการบริการที่สนามบินสุวรรณภูมิกรณีท่านเดินทางมาจากต่างจังหวัดหรือต่างประเทศและจะสำรองตั๋วเครื่องบินหรือพาหนะอย่างหนึ่งอย่างใดที่ใช้ในการเดินทางมาสนามบิน ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เพราะเป็นค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากโปรแกรมการเดินทางของบริษัท ฉะนั้นท่านควรจะให้กรุ๊ป FINAL 100% ก่อนที่จะสำรองยานพาหนะ
** เพื่อความถูกต้อง กรุณาตรวจสอบข้อมูลเดินทางและเงื่อนไขการชำระเงินกับทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายทุกครั้ง
ราคาเริ่มต้น
48,888 บาท
รหัส 011-01983 ทัวร์โมรอคโค ดินแดนฟ้าจรดทราย
ราคาเริ่มต้น 48,888 บาท
เดินทางช่วง ต.ค.67 - ธ.ค.67
เดินทางโดย Saudi Arabian Airlines (SV)
ดูเพิ่มเติม https://lillunartrips.com/tour.php?tour_id=7971

ไฟล์ PDF https://tourfiles.vm101.net/pdf/041/011-01983.pdf

สนใจติดต่อ Lillunar Trips
เลขที่ใบอนุญาต 11/10737
โทร 082-996-6462
LINE ID @lillunartrips
อีเมล lil.lunar2021@gmail.com
คัดลอกข้อมูลทัวร์
เพิ่มในรายการโปรด
Share on social networks
Scan QRCode
 ใบอนุญาต 11/10737
ติดต่อสำนักงาน
Lillunar Trips
เลขที่ใบอนุญาต 11/10737

969/376 ถนนรังสิต-นครนายก ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี 12130

จันทร์-ศุกร์ 9.00 - 18.00 น
บริการของเรา
บริการจองตั๋วเครื่องบิน
บริการทำ VISA ทุกประเทศ
บริการจัดนำเที่ยวต่างประเทศ
บริการจัดนำเที่ยวในประเทศ
บริการเช่ารถตู้ รถบัสโดยสาร
บริการจัดอบรมประชุมสัมมนา
บริการจองที่พัก โรงแรม รีสอร์ท
ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
LineID
Add LINE Friends via QR Code
ติดตามเรา
home
หน้าหลัก
quatation
ขอใบเสนอราคา
chat
ติดต่อเรา
ติดต่อ
chat ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
search ค้นหาโปรแกรมทัวร์
home หน้าหลัก
approval ขอใบเสนอราคา