21.00 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติ ดอนเมือง อาคาร 1 ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์ สายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
00.45 น. เหินฟ้าสู่ เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น โดยเที่ยวบินที่ XJ638 สายการบิน AIR ASIA X ใช้เครื่อง AIRBUS A330-300 จำนวน 377 ที่นั่ง จัดที่นั่งแบบ 3-3-3 (น้ำหนักกระเป๋า 20 กก./ท่าน หากต้องการซื้อน้ำหนักเพิ่ม ต้องเสียค่าใช้จ่าย)
บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง(ราคาโปรโมชั่นไม่มีอาหารบนเครื่อง)
08.40 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ นาโกย่า นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร เรียบร้อยแล้ว (เวลาที่ญี่ปุ่น เร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเพื่อความสะดวกในการนัดหมายเวลา) ***สำคัญมาก!! ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับและจับ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (1)
นำท่านสู่ หุบเขาโครังเค (Korankei Gorge) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ดีที่สุดในภูมิภาคชูบุ หุบเขาอยู่ในหมู่บ้านอะสุเกะ มีสายน้ำโอบล้อมภูเขาอิโมริ ที่ความสูง 254 เมตร ด้านบนเป็นที่ตั้งของวัดโคจะคุจิ เล่ากันว่ากว่า 300 ปี ที่แล้ว เจ้าอาวาสวัดโคจะคุจิ เริ่มปลูกต้นเมเปิ้ลบริเวณวัด ต่อมาชักชวนชาวบ้านให้มาช่วยปลูกเพิ่มเติมจนเต็มหุบเขา ถึงวันนี้มีต้นเมเปิ้ลมากกว่า 4000 ต้น ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเหล่าใบเมเปิ้ลจะเปลี่ยนสีสวยสะพรั่งทั่วหุบเขา ไฮไลท์!!เส้นทางริมแม่น้ำโทโมเอะ ซึ่งมีสะพานไม้ไทเกะสึเคียวเป็นฉากเด่น และเป็นสะพานสัญลักษณ์ประจำโครังเค ถือเป็นจุดที่สวยที่สุดของหุบเขาแห่งนี้ ใกล้กันมี หมู่บ้านซันชู อะสุเกะยาชิกิ (Sanshu Asuke Yashiki Village) เป็นพิพิธภัณฑ์ประเพณีพื้นบ้านที่รวบรวมและเก็บรักษาบ้านเก่าไว้ในบรรยากาศเหมือนหมู่บ้าน ชมวิถีชีวิตของคนชนบท เช่น เลี้ยงวัว ปลูกผัก มีช่างฝีมือนั่งทำงานในบ้านแต่ละหลัง กลึงไม้ สานตะกร้า ตีมีด ย้อมผ้า ทำกระดาษสา ทำร่ม เผาถ่าน ผู้เข้าชมสามารถเข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์กิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นในบ้านแต่ละหลังได้อย่างใกล้ชิด (ไม่รวมค่าเข้าหมู่บ้าน ผู้ใหญ่คนละ 300 เยน เด็ก 100 เยน เปิดบริการ 9.00 -17.00 น.)
**หมายเหตุ ช่วงพีคของโครังเค คือกลางเดือนตุลาคมถึงปลายเดือนพฤศจิกายน แต่ถึงแม้ไม่ใช่ช่วงพีค ธรรมชาติที่นี่ก็สวยงามและสามารถชมได้ตลอดทั้งปี
จากนั้นนำท่านสู่ สวนโอบาระฟุเรไอ (Obara Fureai Park) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นที่พักผ่อนของคนในละแวกนี้ มีทางเดินเล่นในสวนที่อุดมไปด้วยธรรมชาติ เพื่อให้คุณได้เดินเล่น อย่างเพลิดเพลินในธรรมชาติที่สวยงามของทั้งสี่ฤดู นอกจากนี้ในบริเวณของที่ว่าการอำเภอโอบาระที่อยู่ติดกับสวนโอบาระฟุเรไอยังมีซากุระสี่ฤดูของโอบาระปลูกไว้ถึงราว 300 ต้น โดยจะมีดอกบานในช่วงฤดูใบไม้ผลิตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายน ฤดูใบไม้ร่วงตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนธันวาคม ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะมีดอกไม้บานสะพรั่งมากกว่าเมื่อเทียบกับในฤดูใบไม้ผลิ และสามารถชมดอกซากุระที่สวยงามได้พร้อมกับใบไม้ที่สีแดงราวกับเปลวไฟ
นำท่านสู่ เมืองนาโกย่า (Nagoya) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เป็นตัวเมืองของจังหวัดไอจิ มีประชากรอาศัยอยู่มากกว่า 2 ล้านคน เป็นเมืองศูนย์รวมการค้าและการคมนาคมที่สําคัญแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น
เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย
ที่พัก THE B NAGOYA หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (2)
เดินทางสู่ เมืองเกียวโต (Kyoto) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่น มีชื่อเสียงระดับโลกในเรื่องของวัฒนธรรมที่ประณีต ศิลปะแบบญี่ปุ่นอย่างแท้จริง มีมนต์เสน่ห์แบบชนบทญี่ปุ่น ปัจจุบันเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นนิยมของคนทั่วโลก
นำท่านสู่ ศาลเจ้าเฮอัน (Heian Shrine) ศาลเจ้าแห่งนี้นั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ระลึกถึงจักรพรรดิคามมุและจักรพรรดิ์โคเมอิ ผู้ที่มีความสำคัญต่อเมืองเกียวโตอย่างมาก เนื่องจากเป็นจักรพรรดิองค์แรกและองค์สุดท้ายของเกียวโต โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมในยุคเฮอัน โดยเฉพาะเสาและประคูโทริอิยักษ์สีแดงที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของวัด มีสีแดงสดใสมองเห็นมาแต่ไกล จากนั้นสัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น นั่นก็คือ การเรียนพิธีชงชาญี่ปุ่น (Japanese tea ceremony หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Sado) โดยการชงชาตามแบบญี่ปุ่นนั้น มีขั้นตอนมากมาย เริ่มตั้งแต่การชงชา การรับชา และการดื่มชา ทุกขั้นตอนนั้นล้วนมีพิธี รายละเอียดที่บรรจงและสวยงามเป็นอย่างมาก พิธีชงชานี้ ไม่ใช่แค่รับชมอย่างเดียว ยังเปิดโอกาสให้ท่านได้มีส่วนร่วมในพิธีการชงชานี้อีกด้วย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (3)
นำท่านสู่ วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) หรือ วัดทอง หรือ วัดอิคคิวซัง ที่คนไทยนิยมเรียก เดิมสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นบ้านพักของท่านโชกุนอาชิกากะ โยชิมิสุและท่านมีความตั้งใจยกบ้านพักแห่งนี้ให้เป็นวัดนิกายเซนภายหลังจากที่ท่านเสียชีวิต คนไทยนิยมเรียกกันว่า วัดทอง เนื่องจากที่วัดนี้จะมีอาคารหลักเป็นสีทองเกือบทั้งหลังตั้งโดดเด่นอยู่กลางน้ำ ทำให้เกิดเป็นเงาสะท้อนกับพื้นน้ำเบื้องหน้า จนเกิดเป็นภาพที่สวยงามเป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองเกียวโต
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านคายาบูกิ โนะ ซาโตะ (Kayabuki no Sato) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.50 ชั่วโมง) หมู่บ้านคายาบูกิ โนะ ซาโตะ (Kayabuki no Sato) หมู่บ้านทางทิศเหนือของเมืองนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ในหมู่บ้านจะมีกระท่อมหลังคาสูงอยู่ในพื้นที่เกือบ 40 หลัง แต่ละบ้านมีการอนุรักษ์รูปแบบตัวอาคารด้านนอกด้วยวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม โดยการมุงหลังคาแบบ kayabukiและเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกอย่างหนึ่งของหมู่บ้านแห่งนี้ก็คือ หมู่บ้านแห่งนี้เป็นบ้านจริง ๆ ที่มีคนอยู่อาศัย และยังคงดำเนินชีวิตทำงานแบบคนทั่วไปในแถบนี้ เพียงแต่ด้วยสถาปัตยกรรมของบ้านที่คงความโบราณเท่านั้น ซึ่งทำให้เราได้สัมผัสบรรยากาศที่แท้จริงของชนบทในประเทศญี่ปุ่น
นำท่านเดินทางสู่ เมืองไมซุรุ (Maizuru) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) เมืองท่าตอนเหนือของจังหวัดเกียวโต ฝั่งตะวันออกและตะวันตกของเมืองมีบรรยากาศที่น่าสนใจต่างกัน ฝั่งตะวันตกมีท่าเรือประมงและบ้านเมืองในบรรยากาศสมัยเอโดะ ส่วนฝั่งตะวันออกมีอดีตอาคารฐานทัพเรือของสมัยเมจิที่ดูร่วมสมัย
เย็น อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย
พักที่ HOTEL ROUTE INN KYOTO MAIZURU -NISHI MAIZURU EKIMAE หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (4)
นำท่านเดินทางไป เมืองอิเนะ (Ine) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.20 ชั่วโมง) เป็นเมืองท่าประมง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของคาบสมุทรทังโกะ ฝั่งทะเลญี่ปุ่น ในจังหวัดเกียวโต นำท่านลงเรือล่องไปในอ่าวอิเนะ ระหว่างล่องเรือสนุกตื่นเต้นในการให้อาหารนกนางนวล และท่านจะได้ชมภาพที่ถูกจดจำได้คือ แนวอาคารบ้านเรือน ฟุนายะ ที่ตั้งอยู่เลียบ อ่าวอิเนะ ทอดยาวเป็นแนวเส้นโค้งสวยงาม โดยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตสงวนสำคัญสำหรับสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น แต่เดิมแล้ว ฟุนายะ ใช้เรียกรูปแบบที่อยู่อาศัยแบบสร้างพื้นที่เก็บเรือลำเล็กสำหรับหาปลาเอาไว้ที่ชั้น 1 ของบ้าน และเนื่องจากทุกครัวเรือนมีบ้านตั้งอยู่ติดกับทะเล จึงสามารถดื่มด่ำกับทัศนียภาพแสนงดงามจากที่บ้านได้ ปัจจุบัน ชาวประมงมักจะปรับเปลี่ยนชั้น 2 ของบ้านไปเป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว
จากนั้นนำท่านไปชม อามาโนะฮาชิดาเตะ (Amanohashidate View Land) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า สะพานสู่สรวงสวรรค์ (bridge in heaven) เนื่องจากเป็นจุดชมวิวที่ติด 1 ใน 3 ของวิวชายทะเลที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น มองเห็นอ่าวมิยาสึ ยาวกว่า 3 กิโลเมตร ที่มี ลักษณะเป็นสันทรายคดเคี้ยวเชื่อมต่อกัน ส่วนมุมที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คือบริเวณจุดชมวิวของภูเขาทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งได้รับการยอมรับมานานหลายศตวรรษว่าเป็นจุดที่สวยที่สุด จุดชมวิวที่ติดอันดับสวยที่สุด 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ 1.อ่าวมะทสึชิม่า เมืองเซ็นได จ.มิยางิ 2.เกาะมิยะจิม่า จ.ฮิโระชิม่า 3.อะมาโนะ ฮาชิดาเตะ เมืองเกียวโต สะพานนี้มีความยาวประมาณ 3.6 กิโลเมตร ภูมิประเทศที่หาพบได้ยาก คือ มีต้นสนขนาดเล็กใหญ่ราว 8,000 ต้นขึ้นอยู่เรียงราย ลักษณะทางธรรมชาติที่ใช้เวลาสร้างหลายพันปีแห่งนี้เป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ควรค่าแก่การชื่นชม ด้วยทิวสนริมหาดทรายตัดผ่านอ่าวมิยาซึบนคาบสมุทรทังโกะทางตอนเหนือของเกียวโต นำท่านขึ้นรถราง เพื่อนำท่านขึ้นสู่จุดชมวิวด้านบน ท่านจะสามารถชมสุดยอดแห่งความสวยงามที่นักท่องเที่ยวต่างชาติน้อยคนนักที่จะพบเห็นถึงความละเมียดละไมของธรรมชาติ เปรียบดั่งภาพวาดสีน้ำมัน ท่านสามารถสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของสายลม แสงแดด อันเป็นพิเศษสุด ท่านสามารถลองสิ่งที่น่าสนใจ คือ ทำมาตาโนโซกิ ในที่ที่ท่านยืนอยู่ ให้ก้มลงไประหว่างขา 2 ข้าง ซึ่งท่านจะสามารถเห็นทัศนียภาพปรากฏราวกับสวรรค์ย้ายมาอยู่บนพื้นดิน และโลกอยู่บนสรวงสวรรค์ตรงกันข้าม
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (5)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิโนะ (Mino) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง) เพื่อนำท่านสู่ วัดคัตสึโอจิ (KATSUOJI TEMPLE) หรือวัดดารูมะ หรือ คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า วัดแห่งชัยชนะ เป็นวัดที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่อยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดโอซาก้า ติดกับเชิงเขา มีสวนสไตล์ญี่ปุ่นสวยๆขนาดใหญ่ให้เดินชม และยังเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสี
จากนั้นอิสระให้ท่านเดินช้อปปิ้ง ณ เอ็กซ์โปซิตี้ (Expo City) ศูนย์รวมความบันเทิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น เอ็กซ์โปซิตี้เป็นส่วนหนึ่งของสวนสาธารณะที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงงานเวิลด์เอ็กซ์โป ที่จัดขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1970 มีเนื้อที่ทั้งหมดราวๆ 172,000 ตารางเมตร ภายในพื้นที่แห่งนี้มีแหล่งความบันเทิงมากมาย ภายใต้คอนเซ็ปต์ fusing the enjoyment of playing, learning, and discovering ท่านสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ ทั้งช้อปปิ้ง กินข้าว หรือแม้แต่ถ่ายรูปได้ตามอัธยาศัย
เอ็กซ์โปซิตี้ ได้แบ่งออกเป็น 8 โซนด้วยกัน ดังนี้
1. NIFREL พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ จัดแสดงสัตว์ต่าง ๆ ในรูปแบบการนำเสนองานศิลปะ และยังให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับสัตว์อย่างใกล้ชิด
2. Osaka English Village ชุมชนสำหรับคนรักภาษาอังกฤษ เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษในรูปแบบที่ไม่ซ้ำใคร ท่ามกลางบรรยากาศของเมืองต่าง ๆ จากทั่วทั้งอเมริกา
3. Pokemon Expogym สวนสนุกของโปเกมอนแห่งแรกในญี่ปุ่น ที่จะทำให้คุณหลงใหลและผจญภัยไปกับการ์ตูนตัวโปรด
4. Orbi สถานที่แห่งการเรียนรู้ธรรมชาติ
5. Entertainmentfield สวนสนุกภายใต้คอนเซ็ปต์ Shaun the Sheep ซึ่งเป็นภาพยนตร์การ์ตูน
6. 109 Cinemas Osaka-Expocity โรงภาพยนตร์สุดทันสมัย
7. ANIPO สวนสนุกสุดน่ารัก ภายในมีชิงช้าสวรรค์ Redhorse Osaka wheel ซึ่งเป็นชิงช้าที่มีความสูงมากถึง 120 เมตร
8. Lalaport Expocity แหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์ต่างๆ มากกว่า 100 ร้าน พร้อมทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ และอื่น ๆ อีกมากมาย
บริเวณใกล้กันมี สวนสาธารณะ Expo ’70 Commemorative Park (ไม่รวมค่าเข้าชม) ครองตำแหน่งสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดของโอซาก้า รวมถึงเป็นจุดชมซากุระที่สวยงาม รวมถึง Tower of the sun ที่เป็นแลนด์มาร์ก ที่สำคัญบริเวณรายรอบนั้นยังเต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น อควาเรียม สวนดอกไม่นานา และพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ
เย็น รับประทานอาหารเย็นอิสระตามอัธยาศัย
พักที่ HOTEL THE B SHINSEKAI, OSAKA หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (6)
เดินทางสู่ ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) (ด้านนอก) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสําคัญของเมืองโอซาก้า หอคอยปราสาทจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 8 ชั้น ตัวปราสาทถูกล้อมรอบด้วยกำแพงหินคอนกรีต, คูนํ้า และสวนนิชิโนมารุซึ่งอยู่ทางป้อมตะวักตก ความงดงามของปราสาท ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้า ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างให้ความสนใจที่จะมาเยือนและชมตลอดทั้งปี
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ตลาดคุโรมง โอซาก้า (Kuromon Ichiba Market) (ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 20 นาที) เป็นตลาดที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองโอซาก้า บรรยากาศภายในเป็นทางเดิน Arcade เล็กๆ ทอดยาวประมาณ 600 เมตร 2 ข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านค้าต่างๆกว่า 160 ร้านค้าขายทั้งของสด และแบบพร้อมทาน มีของกินเล่นและอาหารพื้นเมืองมากมายหลายชนิดให้ได้ชิมกัน
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวันอิสระตามอัธยาศัย
นำทุกท่านเช็คอินจุดถ่ายรูปที่ ศาลเจ้านัมบะยาซากะ (Namba Yasaka Shrine) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที) ตั้งอยู่ในย่านนัมบะของเมืองโอซาก้า ไฮไลท์ของศาลเจ้าแห่งนี้ คือรูปปั้นหน้าสิงโตอ้าปากขนาดใหญ่ ที่เชื่อกันว่า สามารถกลืนกินปีศาจร้าย หรือ สิ่งไม่ดีทั้งหลาย ให้หายไป และนำพามาซึ่งความโชคดีให้แก่ผู้คน ปัจจุบันนักเรียน นักศึกษา และผู้ประกอบการธุรกิจนั้น นิยมมาขอพรให้ประสบความสำเร็จกันที่นี่ ด้วยความสูง 17 เมตร ความกว้าง 11 เมตรและความลึก 7 เมตร อิสระให้ทุกท่านสักการะ และเก็บภาพที่ ศาลเจ้านัมบะ ยะซะกะ
จากนั้นอิสระช้อปปิ้ง ย่านชินไซบาชิ (Shinsaibashi) บริเวณแหล่งช้อปปิ้งแห่งนี้มีความยาวประมาณ 600 เมตร เต็มไปด้วยร้านค้าปลีก ร้านแฟรนไชส์ ร้านเครื่องสำอางค์ ร้านรองเท้า กระเป๋านาฬิกา ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านขนม ร้านเสื้อผ้าสตรีทแบรนด์ทั้งญี่ปุ่นและต่างประเทศ เช่น Zara H&M Beans ABC Mart เป็นต้น เรียกว่ามีทุกอย่างที่ต้องการรวมกันอยู่บริเวณนี้ ใกล้กันท่านสามารถเดินไปยัง ย่านโดทงโบริ (Dotonbori) ย่านบันเทิงยามค่ำคืนตลอดแนวถนนเลียบคลองโดทงโบริ จากสะพานโดทงโบริบาชิไปจนถึงสะพานนิปปนบาชิ ไฮไลท์!!! ใครๆ ก็เช็คอิน ถ่ายภาพคู่ ป้ายกูลิโกะแมน หรือ ป้ายโดทงโบริกูลิโกะ (Dotonbori Glico Sign) เป็นป้ายไฟนีออนรูปนักกรีฑากำลังวิ่งอยู่บนลู่วิ่ง ซึ่งถูกติดตั้งมาตั้งแต่ ปี ค.ศ.1935 นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งสัญลักษณ์สถานที่นัดพบกันหลง นั่นก็คือ ร้านปูคานิโดรากุ (Kani Doraku) ซึ่งมีปูยักษ์ขยับแขนและลูกตาได้อีกด้วย และห้ามพลาดสำหรับ ทาโกยากิ อาหารท้องถิ่นของชาวโอซาก้า ที่มาถึงถิ่นแล้วต้องลอง Original Taste รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
เย็น รับประทานอาหารเย็นอิสระตามอัธยาศัย
พักที่ HOTEL THE B SHINSEKAI, OSAKA หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
เช้า รับประทานอาหารเช้าของโรงแรม --- BOX SET (7) (เนื่องจากบินไฟท์เช้าต้องออกก่อนเวลาห้องอาหารเปิด)
นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น
09.55 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน แอร์เอเชีย เอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ613
14.20 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติ ดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง(ราคาโปรโมชั่นไม่มีอาหารบนเครื่อง)
วันเดินทางไป - กลับ | ผู้ใหญ่ท่านละ | พักเดี่ยวเพิ่มเงิน | ราคาเด็กท่านละ | ว่าง | |
---|---|---|---|---|---|
04 ธ.ค. 67 - 09 ธ.ค. 67 | 39,888 บาท | 9,000 บาท | 6,000 บาท | 10 | จอง |
969/376 ถนนรังสิต-นครนายก ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี 12130