06.00 น.คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศประตู 10 เคาน์เตอร์ U ของสาย การบินเอมิ เรสต์ พบเจ้าหน้าที่คอยอํานวยความสะดวก
09.30 น.นําคณะท่านเดินทางสู่สนามบินนานาชาติดูไบ โดยสายการบินเอมิเรสต์เที่ยวบินที่ EK375
13.00 น.แวะพักเปลี่ยนเครื่อง ณ สนามบินนานาชาติดูใบ
14.25 น.นําท่านเดินทางสู่ สนามบินนานาชาติ ปอเตล่าลิสบอน โดยสายการบินเอมิเรสต์เที่ยวบินที่ EK193
19.40 น.เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติกรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและด่านศุลกากรเรียบร้อยแล้วนําท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก
พักที่ Holiday Inn Lisbon, an IHG Hotel หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นําท่านเดินทางสู่ “แหลมโรก้า” (Cabo da Roca) อันเป็นแหลมที่ตั้งอยู่ปลายสุดทางทิศตะวันตกของทวีป ยุโรปตั้งอยู่ติดกับมหาสมุทรแอตแลนติก ท่านสามารถซื้อ “Certificate” เป็นที่ระลึก สําหรับการมาเยือน ณ ที่แห่งนี้ (ท่านละ ประมาณ 10 ยูโร) สอบถามหัวหน้าทัวร์อีกครั้ง นําท่านเดินทางสู่ “เมืองซินตร้า” (SINTRA) เป็นที่ตั้งของพระราชวังที่ สวยงามที่ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลก เดิน เล่นชมตัวเมืองเก่าตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 11 นําท่านชมย่านเมืองเก่า ซินตร้า เมืองเก่าที่สงบเงียบแต่มีตึกที่สวยงาม นําท่านชมเมืองเก่าที่ แสนสวยงามของซินตร้า พิเศษให้ท่านได้ชิมทาร์ตไข่ สูตรต้นตําหรับ ที่เกิดขึ้นที่เมืองซินตร้านี้
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นําท่านเดินทางสู่ “เมืองอัลโคบาซา” (ALCOBACA) เมืองทางตอนกลางของประเทศ โปรตุเกส ตั้งอยู่ในจังหวัด อูเอสเต้ มีประชากรอาศัยไม่ ถึง 60,000 คน นําท่านแวะเก็บภาพกับอารามซานต้ามา เรียSanta Maria Monastery จากภายนอก ศาสน์สถานที่ ถูกสร้างขึ้นโดย อฟองโซ่ เฮนริค เพื่อรําลึกถึงชัยชนะที่ แย่งชิงดินแดนได้จากชาวมัวร์เมื่อปี ค.ศ.1147 ถูกขนานนามว่าเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกสไตล์ ซิสเตอร์เชี่ยนโกธิค ซึ่งเป็นหนึ่งในวิหารสไตล์โกธิคที่สวยงามที่สุด แห่งหนึ่งของประเทศโปรตุเกส นอกจากนี้ อารามซานต้ามาเรียยังได้รับการรับรองเป็นมรดกโลก โดยยูเนสโก้ เมื่อ ปี ค.ศ. 1989 และยังเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของประเทศโปรตุเกสอีกด้วย
นําท่านเดินทางสู่ “เมืองออบิโดส”(OBIDOS) เมืองป้อมปราการโบราณ ซึ่งมีประชากรอยู่เพียงหมื่นกว่าคนในปัจจุบันชื่อเมืองตั้งมาจากภาษาละตินโบราณ ซึ่งแปลว่า ป้อมปราการอันแข็งแกร่ง ก่อตั้งขึ้นโดนอาณาจักรโรมัน และยึดครองโดยแขกมัวร์เมื่อช่วงศตวรรษที่ 7 และอีก 400 ปีถัดมาได้ถูกยึดครองโดย อฟองโซ่ เฮนริค กษัตริย์องค์แรกแห่งโปรตุเกส มีเวลาให้ท่านเดินชมบริเวณเมืองเก่าที่ยังคงอนุรักษ์ความดั้งเดิมไว้ตั้งแต่รุ่นโบราณ ราวกับว่าวันเวลาจะหยุดนิ่งอยู่ที่ต้นยุคกลางเมื่อครั้งที่กษัตริย์เดนิส ได้ส่งมอบเมืองออบิโดสนี้ให้แก่แม่นางอิซาเบลแห่งอาณาจักรอารากอนเป็นของขวัญวันอภิเษกสมรส เมื่อ ค.ศ. 1282 ป้อมปราการและปราสาทออบิโดสถูกขนานนามเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของประเทศโปรตุเกส
จากนั้นนําท่านกลับสู่ลิสบอน
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร ให้ท่านได้ลองชิมเมนูปลาซาร์ดีน ปลาพื้นเมืองของโปรตุเกส
จากนั้นนําท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
พักที่ : Holiday Inn Lisbon, an IHG Hotel หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นําท่านชม “กรุงลิสบอน” (LISBON) เมืองหลวงของโปรตุเกส ตัวเมืองตั้งอยู่ริม ฝั่งแม่น้ําเตโย “Tejo” ลิสบอนเป็นเมืองที่มี ประวัติยาวนานกว่า 800 ปี ผ่านชม PONTE 25 ABRIL “สะพาน 25 เมษายน” สะพาน แขวนที่ยาวที่สุดในยุโรป นําท่านชม อนุสาวรีย์ Cristo Rai (National Sanctuary of Christ the King) คล้ายกันกับที่เมืองริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล จากฝั่งเกาะลิสบอน นําท่านชม “อนุสาวรีย์ดิสคัฟเวอรี่” สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1960 เพื่อฉลองการครบ 500 ปี แห่งการสิ้นพระชนม์ ของเจ้าชายเฮนรี่ เดอะเนวิเกเตอร์ แวะเก็บภาพกับหอคอยเบเล็ม (Belem Tower) เดิมสร้างไว้กลางน้ําเพื่อเป็นป้อม รักษาการณ์ดูแลการเดินเรือเข้าออก เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินเรือออกไปสํารวจและค้นพบโลกของ วาสโก ดา กามา นักเดินเรือชาวโปรตุเกส จากนั้นชมภายนอก “มหาวิหารเจอโร นิโม” (Jeronimos Monastery) ที่สร้างขึ้นเพื่อติแก่ “วาส โกดากามา” ที่เดินทางสู่อินเดียเป็นผลสําเร็จ ในปี ค.ศ. 1498 และได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ว่าให้เป็นมรดกโลก
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นําท่านออกเดินทางสู่ “เมืองอิโวร่า” (Evora) ตั้งอยู่ทางตอนกลางของโปรตุเกสและเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก เนื่องจากตัวเมืองเก่าได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีมีกําแพงเมืองยุคกลาง และมีสิ่งก่อสร้างจํานวนมากซึ่งมีอายุย้อนไปได้ถึงยุคทางประวัติศาสตร์หลายยุคมีโบสถ์สมัยศตวรรษที่ 13 วังมากมาย และวัดโรมันสมัย ศตวรรษที่ 1 นําท่านชมเมืองอีโวร่า เมืองเก่า มรดกโลก ผ่านชมจตุรัสกิรัลโด้(Giraldo Square) มีตึกเก่าสวยๆ ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับ มุมต่างๆ ในเมือง นําท่านเข้าชมด้านใน “วิหารแห่งกระดูกแห่งเมืองอีโวร่า” (Chapel of Bones) วิหารกระดูกแห่งนี้ถูก สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 โดยพระในนิกายฟ รังซิสกัน จากนั้นนําท่านออกเดินทางสู่ “เมืองคาเซเรส” Caceres
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
**** ปรับเพิ่มเวลา 1 ชั่วโมง เนื่องจากเดินทางเข้าสู่ประเทศสเปน ****
พักที :Barcelo Caceres V Centenario หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นําท่านชม “เมืองคาเซเรส” Cáceres เมืองหลวงของจังหวัดคาเซเรส และยังเป็นเมืองที่มีอาณาเขตกว้างขวางที่สุดในประเทศสเปน นําท่านเที่ยวชม เขตเมืองเก่าของเมืองคาเซ เรส ที่ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกเมื่อ ปี ค.ศ.1986 เมืองนี้ถูกก่อตั้งขึ้นครั้งแรกเมื่อ 25 ปีก่อนคริสต์กาล โดยกองทัพชาวโรมันที่ขยายอาณานิคมเข้ามาถึงดินแดนคาตาเนียในอดีต จากนั้นนําท่านออกเดินทางสู่ “เมืองโทเลโด้” Toledo นําท่านชมประตูเมือง “ปูเอร์ตา เด บิซากรา” เป็นหนึ่งในประตูเมืองที่มีความสําคัญที่สุดของเมืองโตเลโด้ ประเทศสเปน ตั้งอยู่ทางทิศ เหนือของย่านเมืองเก่าซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 10 สร้างด้วยหินที่แข็งแรงได้สัดส่วนโค้ง เป็นรูปเกือกม้า และค่อยๆลดหลั่น ได้รูป สวยงาม ทุกๆ แห่งของเมืองโตเลโด้ ท่าน จะได้ ชื่นชมกับความแตกต่างของสถาปัตยกรรมแบบ อารบิค, มูเดฆาร์, กอธิค และเรอเนสซองส์ นํา คณะเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองเก่าท่านจะประทับใจ กับความงดงามซึ่งเปรียบเสมือนกับพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต พร้อมชมสัญลักษณ์ของเมือง “ป้อมอัลกาซาร์” ผลงานของสถาปนิกระดับสุดยอดในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 16 ซึ่งตั้งอยู่บนส่วนที่สูงที่สุดของเมืองนี้มี ชื่อเสียงในคริสต์ศตวรรษที่ 19 และ 20 ในฐานะสถาบันวิชาทหารแห่งหนึ่ง เมื่อสงครามกลางเมืองสเปนระเบิดขึ้น ในปี ค.ศ. 1936 กองทหารในป้อมนี้ถูกล้อมโดยกองกําลังของฝ่ายนิยมสาธารณรัฐ
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคารเมนูพิเศษ นกกระทาอบ เมนูประจําเมือง โทเลโด้
ท่านที่ไม่ทานนกระทาอบกรุณาแจ้งฝ่ายขาย เสริฟเป็นไก่แทน
นําท่านชม “มหาวิหารแห่งโทเลโด้” สถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่อันทรงคุณค่า คู่บ้านคู่เมือง ซึ่งใช้เป็นที่ประทับขององค์สังฆราชแห่งสเปน (ถ่ายรูปด้านนอก) ค่าเข้า ชมด้านในมหาวิหารท่านละ 10 ยูโร ใช้เวลาก่อสร้าง 270 ปี จึงเสร็จสมบูรณ์ สร้างขึ้นใน สไตล์โกธิกที่ถือว่ายิ่งใหญ่และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เดิมชาวมุสลิมใช้เป็นสุเหร่า ต่อมาได้ก่อสร้างรูปทรงแบบโกธิคในปี ค.ศ. 1226 และเพิ่มศิลปะแบบเมดูซาร์ บาร็อค และนีโอคลาสสิค จนเสร็จสมบูรณ์ในอีก 300 ปีถัด มา ภายในมีการตกแต่งอย่างงดงามด้วยไม้แกะสลักและภาพสลักหินอ่อน มีงานศิลปะล้ำค่าชิ้นหนึ่งที่ทําด้วยทองคํา เพชร พลอย และเงิน รวม 5,600 กว่าชิ้น มีน้ําหนักมากถึง 200 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่สะสมภาพเขียน ของจิตรกรมีชื่อเสียงของโลกหลายท่าน เช่น เอล เกรโก, โกย่า และ เบลาสเกซ จากนั้น จากนั้นนําท่านเดินทางสู่“เมืองมาดริด”
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
Occidental Madrid Nord หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นําทุกท่านชม “กรุงแมดริด” (MADRID) เมืองหลวงของประเทศสเปน ตั้งอยู่ใจ กลางแหลมไอบีเรียน ในระดับความสูง 650 เมตร เป็นมหานครอันทันสมัยล้ำยุค ที่ซึ่ง กษัตริย์ฟิลลิปที่ 2 ได้ทรงย้ายที่ประทับจาก เมืองโทเล โดมาไว้ที่นี่และประกาศให้มาดริดเป็นเมืองหลวงใหม่ยกเว้นช่วงปี ค.ศ. 1601 - 1607 เมื่อพระเจ้าฟิลลิปที่ 3 ได้ย้าย ไปที่เมืองบายโดลิด มาดริดได้ชื่อว่าเป็น เมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก นําท่านเข้าชม “พระราชวังหลวง(Royal Palace) (ขอสงวนสิทธิ์ใน การงดการเข้าชมภายในพระราชวังหลวง ในกรณี มีการจัดงานพิธีต่างๆ ซึ่งอาจเข้าชมไม่ได้ หรือปรับโปรแกรมไป เข้าพระราชวังอื่นแทน) ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ําแมนซานาเรส มีความสวยงามโอ่อ่าอลังการไม่แพ้ พระราชวังอื่นๆ ในทวีปยุโรป พระราชวังหลวงแห่งนี้ถูกสร้างในปี ค.ศ. 1738 ด้วยหินทั้งหลังในสไตล์บาร็อคโดย การผสมผสานระหว่างศิลปะแบบฝรั่งเศสและอิตาเลียน ประกอบด้วยห้องต่างๆ กว่า 2,830 ห้อง และ ยังเป็นที่เก็บ ภาพเขียนชิ้นสําคัญ ที่วาดโดยศิลปินในยุคนั้น
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนําท่านเข้าสู่ “พลาซ่า มายอร์ (Plaza Mayor) ใกล้เขตปูเอต้าเดลซอล หรือประตูพระอาทิตย์ จัตุรัสใจกลางเมืองนอกจากจะเป็นจุดนับกิโลเมตรแรกของ สเปนแล้ว (กิโลเมตรที่ศูนย์) ยังเป็นศูนย์กลางรถไฟใต้ดิน และรถเมล์ทุกสายและยังเป็นจุดตัดของถนนสําคัญของเมืองที่หนาแน่นด้วยร้านค้ามากมาย และห้างสรรพสินค้า นําท่านเข้าสู่ “ย่านปูเอต้าเดลซอล” หรือประตูพระอาทิตย์ จัตุรัสใจ กลางเมืองเดินชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมแบบสเปนและสัมผัสวิถีชีวิต ชาวเมืองนําท่านแวะถ่ายรูปกับ “อนุสาวรีย์ หมีกับต้นมาโดรนา” อันเป็นสัญลักษณ์ของเมือง
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
หลังอาหารชมระบําฟลาเมงโก (Flamenco) การแสดงประจําชาติอันเป็นวัฒนธรรมที่โด่งดัง ของทางตอนใต้ในเมืองซาบียา ระบํานี้มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 แล้วจนเมื่อปี ค.ศ.2010 องค์การยูเนสโก ก็ได้ประกาศให้ ระบําฟลาเมงโก เป็นหนึ่งในมรดกวัฒนธรรมบอก เล่าและมรดกวัฒนธรรม ด้วยจังหวะเพลงที่สนุกสนานเร้าใจการแต่งกายมีสีสันสวยงาม
พักที่ : Occidental Madrid Nord หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
จากนั้นนําท่านออกเดินทางสู่ “เมืองเซโกเบีย” Segovia เป็นเมืองที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของแมดริด ได้รับการ ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกในปี 1985 โดยยูเนสโก เมืองเซโกเบียเป็นเมืองที่มีประวัติความเป็นมาเก่าแก่ นําทุก ท่านชม “สะพานส่งน้ําโรมัน” Acueducto de Segovia ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 1 โดยไม่ มีการใช้กาวหรือวัสดุเชื่อมหินแต่ละก้อนแต่ อย่างใด จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นสิ่งก่อสร้าง ทางวิศวกรรมโดยชาวโรมันที่สําคัญที่สุดของ สเปน และยังมีสภาพสมบูรณ์ที่สุดอีกด้วย ราง ส่งนํ้าประกอบขึ้นจากหินแกรนิตกว่า 25,000 ก้อน มีความยาว 818 เมตร มีโค้ง 170 โค้ง จุด ที่สูงที่สุดสูงถึง 29 เมตร จุดเริ่มต้นของรางส่งน้ํานี้ เริ่มตั้งแต่นอกเมือง แล้วลําเลียงส่งน้ําเข้ามาในเมือง รางส่งน้ําแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเซโกเบีย และเป็นไฮไลท์หลักของเมือง นําท่านชมเขตเมืองเก่าของเซโกเบียมีลักษณะเป็นซอกซอยเล็กๆ บางซอยถนนปูด้วย หินก้อนใหญ่ๆ ให้ความรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในยุคโบราณ ในตัวเมืองมีโบสถ์ มีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ มีทั้ง สถาปัตยกรรมแบบโรมัน ยิว คริสต์ นําท่านชม(ภายนอก) มหาวิหารซานตามาเรียแห่งเซโกเบีย (Catedral de Santa Maria) มหาวิหารแห่งนี้เป็นมหาวิหารสไตล์โกธิคแห่งสุดท้ายที่สร้างขึ้นในสเปน
(สร้างขึ้นในปี 1768)
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนูพื้นเมืองยอดนิยม หมูหันสเปน ก่อนการ รับประทาน เจ้าหน้าที่จะใช้จานสับหมูโชว์เพื่อแสดงถึงความกรอบจากนั้นก็จะโยน จานลงพื้น เป็นวัฒนธรรมการทานที่เป็นเอกลักษณ์
นําท่านออกเดินทางสู่ “เมืองซาราโกซ่า” Zaragoza ซึ่งเป็นเมืองหลวงในอดีตของ อาณาจักร อารากอน ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศสเปนริมฝั่งแม่น้ําเอโบร ระหว่างทางท่านจะได้สัมผัสกับธรรมชาติของภูมิประเทศอันหลากหลายและ งดงามแปลกตาของภูมิภาคสเปนตอนกลางเมืองซาราโกซ่าได้รับการเสนอชื่อให้เป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม (City of Culture) ของทวีป
ยุโรป
ค่ำ บริการอาหารม้ือค่า ณ ภัตตาคาร
พักที่ : Hotel Zentral Ave หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นําท่านชม “มหาวิหารแม่พระแห่งเสาศักดิ์สิทธิ์” หรือที่รู้จักในนาม “ซานตา มาเรีย เดอร์ฟิลลาร์” ตามตํานานสมัยแรกเริ่มของพระศาสนจักรกล่าวไว้ว่าอัครสาวกยาคอบหรือเซนต์เจมส์ ในระยะเริ่มแรกนั้นการเผยแพร่พระธรรมของท่านไม่ได้เกิดผลมากมายนัก จนกระทั่งท่านเห็นพระแม่มารีมาปรากฏเพื่อชักชวนท่านไปยังกรุงเยรูซาเล็ม ในนิมิตนั้นพระนางปรากฏอยู่บนเสาที่ถูกแบกมาโดยหมู่เทพ และเชื่อ กันว่าเป็นเสาศักดิ์สิทธิ์ต้นเดียวกันกับเสาในซาราโกซ่า ต่อมาคริสต์ศาสนิกชนนิยมมากราบไหว้ขอพรจากพระแม่มารีให้หายจากอาการเจ็บป่วยเป็นจํานวนมาก นําท่านชม “จัตุรัส PLAZA DEL PILAR” สถานที่สําหรับการเดินชมเมือง โบสถ์ วิหาร ซึ่งจัตุรัสแห่งนี้เป็นจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปด้วย นําท่าน ออกเดินทางสู่ “เมืองบาร์เซโลน่า"
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นําท่านแวะซื้อของฝากของ “สนามฟุตบอลคัมป์นู” Camp Nou สนามฟุตบอลสโมสร “ทีมเจ้าบุญทุ่มบาร์เซโล น่า” หรือคุ้นเคยในอีกชื่อว่า “บาร์ซ่า” สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาเป็นผู้ชนะเลิศ ในถ้วยยุโรปและสเปนอย่างมากมาย เป็น สโมสรสเปนที่ประสบความสําเร็จและมีความยิ่งใหญ่ระดับโลก (ขณะนี้สนามทีมบาร์ซ่า มีการรื้อถอนและปรับปรุง) ซึ่งมีอดีตนัก ฟุตบอลที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากมาย อาทิ เช่น เมสซี่,หลุยส์ ซัวเรซ ฯลฯ นําท่านเข้า ชมสวนปาร์ค เดินทางเข้าชมภายในปาร์ค กูเอล (Park Guell) สวนมหัศจรรย์ในบาร์เซโลนา เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในบาร์เซโลนาที่พลาดไม่ได้ ที่นี่โดดเด่นไปด้วยศิลปะงานโมเสค ซึ่งออกแบบโดย อัน ตอนี เกาดี อี กูร์เนต (Antoni Gaudi i Cornet) สถาปนิกชาวคาตาลัน ประเทศสเปน ภายในสวนนั้นถูกตกแต่งไปด้วย งานปฎิมากรรม สถาปัตยกรรม ศิลปกรรมที่ประดับตกแต่งลวดลายด้วยเครื่องกระเบื้องโมเสคนับล้านชิ้น จุดเด่น ของสวนสาธารณะแห่งนี้คือ "มังกรโมเสค" (Mosaic dragon) ที่ไต่คลานบนบันไดน้ําพุ อันเป็นจุดสนใจของ นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ปัจจุบันสวนสาธารณะปาร์ค กูเอลได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การ ยูเนสโกในปี 2005 โดยสวนแห่งนี้เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีความสําคัญมากแห่งหนึ่งของเมืองบาร์เซโลนา อิสระให้ ท่านช้อปปิ้งบนสายใหญ่ของบาร์เซโลนา “ถนนลารัมบลา” La Rambla ย่านที่มีชื่อเสียงที่สุดของ บาร์เซโลนาแหล่งท่องเที่ยวอันเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกวัยถนนสายเล็กๆที่มีความยาวเพียง 1.2 กิโลเมตรแต่มีสีสัน เสน่ห์น่าประทับใจ จากนั้นเดินทางสู่ถนนช้อปปิ้งสายใหญ่ของบาร์เซโลน่า “ถนนลารัมบลา” (Larambla) ย่านที่มีชื่อเสียงที่สุดของบาร์เซโล นาแหล่งท่องเที่ยวอันเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกวัยถนนสายเล็กๆ ที่มีความ ยาวเพียง1.2 กิโลเมตรแต่มีสีสันเสน่ห์น่าประทับใจทั้งกลางวันและกลางคืนอิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าและเสื้อผ้าแบรนด์เนม ทั้ง H&M, ZARA, BENETON, TOPSHOP หรือจะช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชั้นนําซึ่ง มีร้านตั้งอยู่ตลอดแนวถนน “Passeig de gracia” ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าอาทิLOUIS VUITTON, CHANEL, GUCCI, LOEWE และอื่นๆ อีกมากมาย
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ ข้าวผัดสเปน (SEA FOOD PAELLA)
พักที่ Fira Congress หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
หลังอาหารหลังอาหาร ชมความงามของ เมืองบาร์เซโลนา บนยอดเขา “มองต์จอิค” Mont Juic จากนั้นเข้าสู่ จัสตุรัสคาตาลุนญ่า (Plaça Catalunya) จัตุรัสที่มีชีวิตชีวาแห่งนี้ เป็นหัวใจของบาร์เซโลนา จัตุรัสแห่งนี้เปิด โดยกษัตริย์อัลฟองโซที่ 13 ในปี 1927 พื้นที่ นี้เคยเป็นที่ดินเปล่าที่ตั้งอยู่หน้าประตูเมืองที่ มีกําแพงล้อมรอบ ปัจจุบันมีศูนย์การค้าและ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ และรายล้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหารมากมาย
นําท่านเก็บภาพบริเวณด้านหน้า คา ซา มิลา (Casa Mila) อาคารอพาร์ทเม้นท์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของ Gaudi สถาปัตยกรรมที่แสดงถึงความเชื่อมโยงระหว่างเกาะกับธรรมชาติ ซึ่งเป็นที่มาของ แรงบันดาลใจสําหรับผลงานทั้งหมดของเขา ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางบาร์เซโลนา สร้างมาตั้งแต่ปี 1906 – 1912 เป็นอพาร์ทเม้นท์หลัง สุดท้ายที่ออกแบบโดยเกาดี นําท่านถ่ายภาพทีระลึกด้านนอก “มหาวิหารซากราด้า แฟมิเลียร์” (Sagrada Familia) สัญลักษณ์แห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สูงใหญ่ถึง 170 เมตร ออกแบบก่อสร้างอย่างสวยงามแปลก ตา ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1882 เป็นผลงานชั้นยอดที่ แสดงถึงอัจฉริยภาพของ อันโตนี เกาดี้ สถาปนิกผู้เลื่องชื่อ มหาวิหารแห่งนี้ จากนั้น นําทุกท่านเดินทางสู่ La Roca Village นําท่านช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชั้นนํามากมาย อาทิ Armani, Burberry, Calvin Klein,Coach, Escada, FC Barcelona official store,Gucci, Guess, Hugo Boss, Kipling, L'OCCITANE, Levi's, Lacoste, Loewe, Michael Kors, Nike, POLO,PUMA, Ray-Ban, Samsonite, Superdry, Swarovski, Swatch, TAGHEUER, Tommy Hilfiger, The North Face, Timberland, TUMI, Versace, Zwiling, Zegna ฯลฯ ได้เวลาพอสมควรนําท่านออกเดินทางสู่สนามบิน
20.50 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ EK188
05.20 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติดูไบ แวะพักเปลี่ยนเครื่อง
08.50 น. เหิรฟ้าสู่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ
18.20 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ / โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
วันเดินทางไป - กลับ | ผู้ใหญ่ท่านละ | พักเดี่ยวเพิ่มเงิน | ราคาเด็กท่านละ | |
---|---|---|---|---|
02 ธ.ค. 67 - 10 ธ.ค. 67 | 95,900 บาท | 25,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
1. ค่าตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัด ไป-กลับ กรุงเทพฯ-ลิสบอน// บาร์เซโลน่า-กรุงเทพฯ (หรือสลับประเทศลงก่อน-หลัง)
2. ค่ารถปรับอากาศนําเที่ยวตามระบุไว้ในรายการ พร้อมคนขับรถที่ชํานาญเส้นทาง กฎหมายในยุโรปไม่อนุญาตให้คนขับรถ
เกิน 12 ช.ม./วัน
3. โรงแรมที่พักตามระบุหรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน โรงแรมส่วนใหญ่ในยุโรปจะไม่มีเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากอยู่ในแถบ ที่มีอุณหภูมิต่ำและราคาโรงแรมจะปรับขึ้น 3-4 เท่าตัว หากวันเข้าพักตรงกับงานเทศกาล เทรดแฟร์หรือการประชุมต่างๆ อันเป็นผลที่ทําให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนย้ายเมือง โดยคํานึงถึงความเหมาะสมเป็นหลัก
4. ค่าอาหารที่ระบุในรายการ ให้ท่านได้เลิศรสกับอาหารท้องถิ่นในแต่ละประเทศ
5. ค่าบริการนําทัวร์โดยหัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์นําเที่ยวให้ความรู้ และคอยดูแลอํานวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
6. ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงินท่านละ 1,000,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์) หากท่านอายุเกิน 75 ปี หรือไม่ได้ เดินทางไปและกลับพร้อมกรุ๊ป ท่านต้องซื้อประกันเดี่ยวเพิ่ม
1. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 %
2. ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ วันละ 100 บาท / ท่าน (900 บาท)
3. ค่าทิปพนักงานขับรถตลอดการเดินทาง ท่านละ 2 ยูโรต่อวัน / (14 ยูโร)
4. ค่าธรรมเนียมในการยื่นวีซ่ายุโรปหรือกลุ่มเชงเก้นวีซ่า และค่าธรรมเนียมวีซ่า ทางสถานทูตไม่คืนให้ท่านไม่ว่าท่านจะ ผ่านการพิจารณาหรือไม่ก็ตาม ค่าวีซ่าและค่าบริการท่านละ 7,000 บาท
5. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด ค่าเครื่องดื่มและอาหารนอกเหนือจากที่ระบุในรายการ
6. ค่าผกผันของภาษีน้ํามันที่ทางสายการบินแจ้งเปลี่ยนแปลงกะทันหัน
1. บริษัทฯ จะทําการยื่นวีซ่าของท่านก็ต่อเมื่อในคณะมีผู้สํารองที่นั่งครบ 20 ท่าน และได้รับคิวการตอบรับจากทางสถานทูต เนื่องจากบริษัทฯ จะต้องใช้เอกสารต่างๆที่เป็นกรุ๊ปในการยื่นวีซ่า อาทิ ตั๋วเครื่องบิน ห้องพักที่คอนเฟิร์มมาจากทางยุโรป ประกันการเดินทาง ฯลฯ ทางท่านจะต้องรอให้คณะครบ 20 ท่าน จึงจะสามารถยื่นวีซ่าให้กับทางท่านได้อย่างถูกต้อง
2. หากในช่วงที่ท่านเดินทางคิววีซ่ากรุ๊ปในการยื่นวีซ่าเต็ม ทางบริษัทต้องขอสงวนสิทธิ์ในการยื่นวีซ่าเดี่ยว ซึ่งทางท่านจะต้อง เดินทางมายื่นวีซ่าด้วยตัวเอง ตามวัน และเวลานัดหมายจากทางสถานทูต โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทคอยดูแล และอํานวยความสะดวก
3. เอกสารต่างๆที่ใช้ในการยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป ทางสถานทูตเป็นผู้กําหนดออกมา มิใช่บริษัททัวร์เป็นผู้กําหนด ท่านที่มี ความประสงค์จะยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป กรุณาจัดเตรียมเอกสารให้ถูกต้อง และครบถ้วนตามที่สถานทูตต้องการ เพราะ จะมีผลต่อการพิจารณาวีซ่าของท่าน บริษัททัวร์เป็นแต่เพียงตัวกลาง และอํานวยความสะดวกในการยื่นวีซ่าเท่านั้น มิได้เป็นผู้ พิจารณาว่าวีซ่าให้กับทางท่าน
4. กรณีวีซ่าที่ท่านยื่นไม่ผ่านการพิจารณา และคณะสามารถออกเดินทางได้ ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้
5. หากท่านผ่านการพิจารณาวีซ่า แล้วยกเลิกการเดินทางทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยึดค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100%
6. ทางบริษัทเริ่มต้น และจบ การบริการ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ กรณีท่านเดินทางมาจากต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ และจะ สํารองตั๋วเครื่องบิน หรือพาหนะอย่างหนึ่งอย่างใดที่ใช้ในการเดินทางมาสนามบิน ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายใน ส่วนนี้ เพราะเป็นค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากโปรแกรมการเดินทางของบริษัท ฉะนั้นท่านควรจะให้กรุ๊ป FINAL 100% ก่อนที่จะสํารองยานพาหนะ
7. กรณีท่านที่ประสงค์พักแบบห้องสามเตียง (Triple Room) หากทางโรงแรมที่พักไม่สามารถจัดห้องพักแบบสามเตียงได้
อาจต้องเป็นเตียงเสริมแทน หรือ อาจต้องแยกเป็นห้องสองเตียง 1 ห้องและห้องเตียงเดียว 1 ห้อง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสําหรับ ค่าห้องเดียวทั้งนี้ทางลูกค้าต้องเป็นผู้จ่ายค่าห้องเดียวเอง ทางบริษัทฯ ขอแนะนําให้พักสองห้อง)
969/376 ถนนรังสิต-นครนายก ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี 12130